มารยาทบนโต๊ะอาหารฝรั่งเศสเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร หลายคนคิดไกลตัว และไม่จำเป็นเท่าไหร่ ทั้งที่จริงแล้วสำคัญนัก เพราะแค่ได้รับเชิญไปงานแต่ง หรือแม้แต่รับประทานอาหารกับเจ้านาย คุณก็อาจจับพลัดจับผลูเข้าไปร่วมมื้อหรู ที่คนอื่นรู้มารยาท และธรรมเนียมการปฏิบัติแบบสากลเป็นอย่างดี ถ้าไม่อยากกลายเป็นสาวเปิ่นประจำโต๊ะ คงต้องเรียนรู้มารยาทแขนงนี้ เป็นยันต์กันภัยไว้ซะหน่อย จะได้ไม่ต้องนั่งตัวเกร็ง เก้ๆ กังๆ เมื่อถึงคราวออกงานสังคมไงล่ะ | ||||
“สำหรับบนโต๊ะอาหาร มารยาทสากลในแบบที่เป็นทางการจริงๆ เครื่องมือ อย่าง ส้อม มีด ทุกอย่างจะถูกวางเรียงกันไว้เป็นจำนวนมาก เราก็หยิบจากด้านนอกเข้ามา แต่ในปัจจุบัน แม้จะเป็นห้องอาหารมีระดับในยุโรป ก็จะวางเครื่องมือไว้ไม่มากแล้ว ประมาณ 2 ชุดเท่านั้น ส่วนเครื่องมืออื่นๆ เมื่อถึงเวลาเสิร์ฟอาหาร บริกรถึงจะนำมาให้อีก” ไวน์ซอมเมอลิเยร์แห่งเลอนอร์มังดี เกริ่นนำให้ใจชื้นว่ามารยาทบนโต๊ะอาหารปัจจุบันไม่ได้ยุ่งยากนัก ว่าแล้ว เรามาดูกันเถอะว่าการรับประทานอาหารให้ดูดี มีมารยาทตามหลักสากลนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อถึงโต๊ะอาหาร => ให้ผู้อาวุโส-สุภาพสตรี นั่งก่อน สำหรับมารยาทบนโต๊ะอาหารนั้น กูรูหนุ่มของเราบอกว่า เริ่มตั้งแต่ก่อนจะนั่งโต๊ะเสียอีกค่ะ “เมื่อเข้ามาถึงที่โต๊ะ ตามมารยาทนั้นต้องให้ผู้อาวุโสกว่านั่งก่อน แล้วก็ตามด้วยคุณผู้หญิง ซึ่งเท่าที่เราพบ แม้ปกติทางห้องอาหารจะมีบริกร คอยเลื่อนเก้าอี้ให้อยู่แล้ว แต่คุณผู้ชายหลายคนที่เป็นสุภาพบุรุษมากๆ จะเข้ามาแย่งเป็นคนเลื่อนเก้าอี้ให้คุณผู้หญิงเองเลย” ว้าว! สุภาพบุรุษกันซะจริง ผ้าเช็ดปาก => ห้ามนำมา “เหน็บคอเสื้อ” เด็ดขาด | ||||
ส่วนการนำผ้าเช็ด ปากมาเหน็บไว้ที่คอเสื้อนั้น กูรูย้ำไว้เลย อย่าได้ทำเชียว เพราะนั่นเป็นสไตล์ยุโรปเก่า เน้นคำว่า ‘เก่า’ ที่เอ้าท์สุดๆ ทำไปจะมีคนแอบขำเอาได้ ใช้มีด-ส้อม => จับให้เหมือนดินสอ | ||||
“ขนมปังจะเสิร์ฟทางด้านซ้ายมือเสมอ อย่าเผลอไปหยิบด้านขวานะครับ เพราะนั่นเป็นของคนข้างๆ ส่วนเวลาทาน ไม่ต้องใช้มีดหั่น ใช้มือได้เลย บิเป็นชิ้นพอคำ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป แล้วใช้มีดเล็กสำหรับปาดเนย ทาเนยแล้วก็ทาน” คุณทิวาอธิบาย ส่วนการใช้มีดและส้อมสำหรับตัดอาหารทาน แนะนำให้จับเหมือนดินสอจะถนัดมือ โดยคว่ำส้อมลงที่ชิ้นเนื้อ ใช้มีดตัดเป็นชิ้นพอคำ แล้วค่อยนำเข้าปากอย่างสุภาพ ไม่เพียงเท่านี้ คุณทิวายังให้ทิปแถมว่า หากเป็นเนื้อที่ติดมากับกระดูก ให้ตัดเนื้อแยกออกจากกระดูกให้หมดชิ้นเสียก่อน จากนั้นนำกระดูกวางไว้ข้างจานแล้วค่อยทานเนื้อที่ตัดไว้ แต่หากเป็นปลาที่เสิร์ฟมาทั้งตัว (พบไม่บ่อยนัก) ก็มีข้อบ่งชี้ว่าห้ามพลิกตัวปลาค่ะ ให้ใช้ส้อมและมีดค่อยๆ เลาะก้างออกแล้วจึงทาน ทานซุป => ตักออกตัว แล้วทานจากข้างช้อน | ||||
สำหรับถ้วยซุปจะมี 2 แบบ คือแบบจาน (plate) และแบบถ้วย (cup) ซึ่งแบบถ้วยนี้จะมีหูด้านข้างให้จับ เราสามารถจับที่หูแล้วยกน้ำซุปขึ้นมาซดได้ด้วย ทั้งนี้เมื่อทานซุปเสร็จแล้ว ให้นำช้อนซุปวางไว้ที่จานรอง อย่าทิ้งคาไว้ในชามนะคะ จะดูไม่งาม หลังทานเสร็จ => รวบมีดส้อมให้ชิดแนว 5 โมง พับวางผ้าเช็ดปากแถวเก้าอี้ | ||||
โดยมารยาทแล้ว ขณะรับประทานอาหารถ้าเลี่ยงการไปเข้าห้องน้ำได้ก็ควรเลี่ยง แต่หากมีความจำเป็นต้องไปจริงๆ ก่อนลุกให้ขออนุญาตผู้ร่วมโต๊ะสักนิด แล้วพับผ้าเช็ดปากให้เป็นสามเหลี่ยมขนาดเล็กพอควร แล้ววางไว้ที่วางแขนเก้าอี้ แต่หากเก้าอี้ไม่มีที่วางแขนก็วางไว้บนเก้าอี้ได้เลย :: เกร็ดมารยาทดื่มชากาแฟ กับจิบไวน์ | ||||
ส่วนของหวานหลังอาหาร หากเป็นขนมปังชิ้นเล็กๆ สามารถใช้มือหยิบทานได้เลย แต่ถ้าเป็นของหวานชิ้นใหญ่ ที่ส่วนมากจะตัดมาเป็นรูปสามเหลี่ยม ให้เริ่มตัดส่วนปลายแหลมทานก่อน ส่วนการดื่มไวน์ (wine) โดยปกติแล้ว แก้วที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ จะประกอบไปด้วยแก้วน้ำดื่ม แก้วไวน์ขาว และไวน์แดง สังเกตได้ง่ายๆ ว่า แก้วไวน์ขาว จะเล็กและปากแคบกว่าแก้วไวน์แดง เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ไวน์ขาวจะไม่ต้องการสัมผัสอากาศมาก เท่ากับไวน์แดง และกฏเหล็กของการดื่มไวน์ก็คือ เวลายกดื่มให้จับเฉพาะที่ก้านแก้วเท่านั้น อย่าจับที่ตัวแก้ว เพราะอุณหภูมิจากมือของเรา จะทำให้อุณหภูมิของไวน์เปลี่ยน เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนรสชาติก็จะเปลี่ยนไปด้วย “ปกติแล้วไวน์ซอมเมอลิเยร์ จะรินไวน์ให้ในปริมาณ 1 ใน 7 ส่วนของแก้ว เป็นปริมาณพอเหมาะ ที่ยกดื่มง่าย แกว่งสะดวก ส่วนกรรมวิธีการเสิร์ฟไวน์ จะเริ่มจากไวน์ซอมเมอลิเยร์ทดสอบว่า ไวน์ขวดนั้นมีคุณภาพสมบูรณ์เต็มร้อยหรือไม่ หากมีคุณภาพดี ไม่เสีย ไม่บูด จึงจะให้คนที่สั่งไวน์ (เจ้ามือของมื้อนั้นๆ) เป็นผู้ทดสอบ จากนั้นจึงเสิร์ฟให้สุภาพสตรีในโต๊ะก่อน แล้วค่อยเสิร์ฟผู้ชาย เมื่อเสิร์ฟจนครบทุกคนแล้วถึงจะวนกลับมาเสิร์ฟให้ผู้สั่งไวน์ อธิบายง่ายๆ ก็คือ คนสั่งจะได้ชิมก่อน แต่จะถูกรินให้เป็นคนสุดท้าย” หัวหน้าไวน์ซอมเมอลิเยร์ทิวา ให้ข้อมูล อ้อ! ถ้าอยากดื่มด่ำกับรสไวน์แบบเต็มๆ กูรูแห่งเลอนอร์มังดีผู้นี้แนะว่า ก่อนดื่มให้แกว่งแก้วเล็กน้อย เพื่อให้กลิ่นไวน์หอมเพิ่มอีกนิด แล้วจะรู้สึกว่ารสชาติไวน์อร่อยขึ้นอีกเป็นกอง เพราะราคาของไวน์ครึ่งหนึ่งคือราคาของกลิ่น... | ||||
- เลื่อนเก้าอี้เพื่อให้ตัวของคุณชิดกับโต๊อย่างพอเหมาะ เพื่อที่ขณะรับประทานอาหาร จะได้ตัวตรงดูสง่า ไม่หลังค่อม เพราะต้องโน้มตัวตักอาหาร - ก่อนทานอาหาร ระหว่างรอบริกรเสิร์ฟเครื่องดื่ม ควรหาเรื่องคุยกับคนข้างๆ สักเล็กน้อย เพราะมันดูไม่ดีนัก ถ้าจะนั่งรอทานโดยไม่คุยกับใครเลย - หากต้องการเครื่องปรุงรส ซึ่งเป็นของส่วนกลาง แต่หยิบไม่ถึง ให้ใช้วิธีขอคนที่อยู่ใกล้ส่งผ่านมาให้ ไม่ควรเอื้อมหรือลุกขึ้นไปหยิบเอง - เมื่อได้รับอาหารก่อนคนในโต๊ะ อย่าส่งต่ออาหารให้ผู้อื่น ท่องไว้ว่าการเสิร์ฟอาหารเป็นหน้าที่ของบริกรเท่านั้น เพราะเขารู้ดีที่สุด ว่าต้องเสิร์ฟอาหารจานไหนให้กับใคร - ก่อนดื่มน้ำ ควรใช้ผ้าเช็ดปากซับปากเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้คราบอาหารติดที่ขอบแก้ว - หากส้อมหรือมีดหล่น ไม่ต้องก้มลงเก็บ เพราะโดยทั่วไปแล้วร้านอาหารหรูทั้งหลาย จะมีบริกรคอยสอดส่องดูแล เมื่อพบว่ามีอุปกรณ์การทานอาหารตก จะมีการนำมาเปลี่ยนให้อยู่แล้ว หากบริกรไม่เห็นค่อยกวักมือเรียกให้นำอุปกรณ์ที่ตกนั้นมาเปลี่ยน - หลังรับประทานเสร็จ ให้วางผ้าเช็ดปากไว้บนโต๊ะ โดยพับหลวมๆ ไว้ และไม่ควรม้วนหรือขย้ำผ้าเช็ดปากนั้น อ้างอิ้ง:http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9530000182306 |
วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557
Posted on 04:21 by Unknown
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
..
Popular Posts
-
ข้อมูลทั่วไปของประเทศฝรั่งเศส สาธารณรัฐ ฝรั่งเศส เป็นประเทศที่มีศูนย์กลางตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะ...
-
มารยาทบนโต๊ะอาหารฝรั่งเศส เรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร หลายคนคิดไกลตัว และไม่จำเป็นเท่าไหร่ ทั้งที่จริงแล้วสำคัญนัก เพราะแค่ได้รับเชิญไปงานแต...
-
ภาษาฝรั่งเศส เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเรียนไทยมากอีกภาษาหนึ่ง ทุกคนสามารถเรียนภาษาฝรั่งเศสได้ แต่ถ้าจะเรียนให้ได้...
-
การทักทายเเบบฝรั่งเศส ไทย คุณสบายดีเหรอครับ/ค่ะ ฝรั่งเศส comment alez-vous?(กอมัง ตาเล-วู?) ส่วนคำนี้ ใช้ได้กับคนที่สน...
-
Poisson d’avril วันโกหก มีเชื่อเรียกอื่นๆ อีกว่า วันเมษาหน้าโง่ , วันโกหกเดือนเมษายน , วันเทศกาลคนโง่ หรือ เป็นที่รู้จักอย่า...
ฝรั่งเศสเบื้องต้น
จำนวนการดูหน้าเว็บรวม
ขับเคลื่อนโดย Blogger.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น